การเขียนเว็บไซต์แต่ละแบบคืออะไร แตกต่างกันอย่างไรบ้าง
หากพูดถึงการเขียนเว็บไซต์ หรือ การพัฒนาเว็บไซต์นั้น หลายคนอาจจะคิดว่าเป็นงานที่ไม่ยุ่งยากอะไร สามารถใช้นักพัฒนาคนเดียวเป็นคนเขียนโค้ดทั้งหมดได้ อันที่จริงแล้วก็ไม่ใช่เรื่องที่เกินจริงไปสักเท่าไหร่ครับ เพราะนักพัฒนาที่เชี่ยวชาญจริง ๆ คนเดียวก็สามารถทำให้เสร็จได้ แต่อาจจะต้องใช้เวลาที่นานทีเดียว บริษัทรับออกแบบและพัฒนาเว็บไซต์ต่าง ๆ จึงมักจ้างนักพัฒนาที่เชี่ยวชาญแต่ละส่วน หลาย ๆ คนให้มาทำงานร่วมกัน เพื่อแบ่งเบาภาระของกันและกัน รวมถึงทำให้งานแต่ละโปรเจกต์สำเร็จลุล่วงได้ตามเวลาที่ลูกค้าต้องการ
จึงไม่แปลกเลยที่การพัฒนาเว็บไซต์จะมีการแบ่งงานกันเป็นส่วน ๆ และแต่ละส่วนจะมีการทำงานกันอย่างไร และแตกต่างกันยังไงบ้างนั้น ไปติดตามกันได้ในบทความนี้เลย
การเขียนเว็บไซต์คืออะไร?
การเขียนเว็บไซต์หรือที่เรียกอีกอย่างว่า การพัฒนาเว็บไซต์ ก็คือกระบวนการออกแบบ พัฒนา และการดูแลเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันบนอินเทอร์เน็ต ซึ่งประกอบไปด้วยการเขียนโค้ดโดยใช้ภาษาเขียนโปรแกรมต่าง ๆ ควบรวมกัน การเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ และการรักษาความสามารถในการเข้าถึงของผู้ใช้ การเขียนเว็บไซต์จะมีอยู่ด้วยกัน 3 ประเภทหลัก ๆ ได้แก่ การพัฒนาส่วนหน้า (Front-end) การพัฒนาส่วนหลัง (Back-end) และการพัฒนาแบบควบรวม (Full-stack)
การพัฒนาส่วนหน้าจะเกี่ยวข้องกับส่วนที่ต่อประสานกับผู้ใช้และการออกแบบที่ผู้ใช้มองเห็นและโต้ตอบได้ ในขณะที่การพัฒนาส่วนหลังจะเกี่ยวกับฐานข้อมูล โลจิก และการทำงานอื่น ๆ ที่อยู่เบื้องหลังเว็บไซต์ที่ผู้ใช้ไม่สามารถเห็นได้ ส่วนการพัฒนาแบบควบรวมก็คือการทำงานที่ครอบคลุมทั้งสองด้านที่กล่าวมานั่นเอง
ความสำคัญของการเขียนเว็บไซต์
- ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและความเป็นมืออาชีพให้กับธุรกิจ การเขียนเว็บไซต์ที่ดีสามารถสะท้อนถึงความน่าเชื่อถือและความเป็นมืออาชีพของแบรนด์ได้
- เพิ่มการรับรู้แบรนด์ เว็บไซต์ช่วยให้ธุรกิจสามารถแสดงอัตลักษณ์และค่านิยมของแบรนด์สู่ผู้บริโภคได้ทั่วโลก
- เข้าถึงได้ตลอดเวลา เว็บไซต์ทำให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงสินค้าและบริการของเราได้ตลอด 24 ชั่วโมง
- เพิ่มการมีส่วนร่วมของลูกค้า เว็บไซต์ที่มีการเขียนเว็บไซต์อย่างดีสามารถสร้างปฏิสัมพันธ์และการมีส่วนร่วมกับลูกค้าได้มากขึ้น
- การเก็บข้อมูลและการวิเคราะห์ เว็บไซต์ช่วยให้ธุรกิจสามารถเก็บข้อมูลและวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้ใช้เพื่อปรับปรุงบริการได้
- การเพิ่มการมองเห็นในการค้นหา การทำ SEO ช่วยให้เว็บไซต์แสดงอยู่ในผลการค้นหาของ Google ได้ดีขึ้น
- ประโยชน์จากช่องทางการตลาดดิจิทัล เว็บไซต์เป็นเครื่องมือสำคัญในการดำเนินกลยุทธ์การตลาดออนไลน์
- โอกาสในการปรับตัวตามความชอบของผู้บริโภค เว็บไซต์ที่ดีสามารถปรับปรุงและตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็ว
การเขียนเว็บไซต์มีกี่ประเภท?
การเขียนเว็บไซต์สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท ดังนี้
1. การเขียนเว็บไซต์ส่วนหน้า
เรียกอีกอย่างว่า Front-end Development คือการพัฒนาส่วนของเว็บไซต์ที่ผู้ใช้งานสามารถเห็นและโต้ตอบได้โดยตรง หรือที่เรียกว่า “ระบบหน้าบ้าน” ซึ่งรวมถึงการออกแบบหน้าตาเว็บไซต์ การจัดวางเมนู รูปภาพและแบนเนอร์ ลิงก์เชื่อมต่อต่าง ๆ ไปจนถึงเหนื้อหาบนหน้าเว็บ การเขียนเว็บไซต์ด้านนี้จะต้องมีความเชี่ยวชาญการใช้ภาษา HTML, CSS, และ JavaScript เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานที่ดีให้กับผู้ใช้ นอกจากนี้ยังต้องมีความรู้เกี่ยวกับการทำให้เว็บไซต์สามารถแสดงผลได้ดีในอุปกรณ์ต่าง ๆ และการทำงานร่วมกับ Back-end Developer เพื่อให้เว็บไซต์มีความสมบูรณ์และทำงานได้อย่างราบรื่นด้วยเช่นกัน
2. การเขียนเว็บไซต์ส่วนหลัง
เรียกอีกอย่างว่า Back-end Development เป็นการพัฒนาเว็บไซต์ในส่วนของ "ระบบหลังบ้าน" ซึ่งเป็นส่วนที่ผู้ใช้งานไม่สามารถมองเห็นได้โดยตรง แต่ถือเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เว็บไซต์สามารถทำงานได้ การเขียนเว็บไซต์ส่วนหลัง คือการสร้างและดูแลระบบฐานข้อมูล เซิร์ฟเวอร์ และแอปพลิเคชันที่ทำงานอยู่เบื้องหลัง เพื่อให้ส่วนหน้าบ้านที่ผู้ใช้เห็นนั้นสามารถทำงานได้อย่างราบรื่นตลอดเวลา ตัวอย่างทักษะที่สำคัญสำหรับ Back-end Development เช่น เขียนโค้ดในภาษาต่าง ๆ เช่น Java, PHP, Ruby และ Python รวมถึงความเข้าใจในการทำงานของฐานข้อมูลและเซิร์ฟเวอร์ นอกจากนี้ยังต้องมีทักษะการวิเคราะห์ปัญหาและการทำงานเป็นทีมที่ดีด้วย
3. การเขียนเว็บไซต์เต็มรูปแบบ
หรือที่เรียกอีกอย่างว่า Full-stack Development คือการพัฒนาเว็บไซต์ที่ครอบคลุมทั้งส่วนหน้าและส่วนหลัง การเขียนเว็บไซต์แบบ Full-stack จึงจำเป็นต้องใช้ความสามารถในการทำงานทั้งสองด้านอย่างเชี่ยวชาญ นักพัฒนา Full Stack ถือเป็นบุคคลสำคัญที่สามารถเชื่อมโยงและประสานงานระหว่างส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ให้ทำงานร่วมกันได้อย่างลงตัวและไร้ข้อบกพร่อง นักพัฒนา Full-stack จึงเป็นอาชีพที่ต้องการและมีค่าตอบแทนสูง
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว หลายคนก็น่าจะพิมีความเข้าใจคร่าว ๆ กันแล้วนะครับว่าการพัฒนาเว็บไซต์นั้นมีกี่แบบ แต่ละแบบแตกต่างกันอย่างไร และมีความเกี่ยวพันกันอย่างไรบ้าง รวมถึงความสำคัญของการพัฒนาเว็บไซต์ที่มีต่อธุรกิจ โดยหากใครที่ยังสงสัยหรือยังไม่เห็นภาพว่าการมีเว็บไซต์นั้นเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจอย่างไรบ้าง ก็สามารถคลิกเข้าไปอ่านเพิ่มเติมกันได้ใน บทความนี้ เลย
สำหรับผู้ประกอบการท่านใดที่กำลังสนใจอยากมีเว็บไซต์สำหรับธุรกิจของตัวเอง ลองคลิกเข้าไปชมผลงานของ 1001 Click กันดูก่อนได้เลยครับ จะเห็นได้เลยว่ามีแต่เว็บไซต์ของแบรนด์ที่มีชื่อเสียงทั้งนั้น เป็นเครื่องการันตีได้เป็นอย่างดีเลยว่า เว็บไซต์ของคุณก็จะต้องออกมาดี มีมาตรฐานไม่แพ้แบรนด์ใหญ่ ๆ เลยทีเดียว
หากต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถเข้าไปดูได้ที่ https://www.1001click.com/
หรือติดต่อขอคำปรึกษาเพิ่มเติมได้ผ่านช่องทาง
- Line ID: 1001click
- Tel: 081 116 1001
- E-mail: info@1001click.com