เทคนิคออกแบบเว็บไซต์ (WEB DESIGN) ให้ออกมาทรงพลัง แถมยังถูกใจผู้ใช้

การออกแบบเว็บไซต์จำเป็นจะต้องเรียนรู้หลักการเบื้องต้นครับ เพราะว่าเป็นการรวมกันระหว่างเรื่องของงานออกแบบ + เทคโนโลยี ซึ่งในปัจจุบัน ก็ได้มีเว็บไซต์ที่คล้ายกันมากมายให้เลือกเข้าชม ผู้ใช้งานจึงสามารถตัดสินใจเลือกได้ว่าจะเปิดเข้าเว็บไซต์ใดหรือจะไม่เปิดเข้าเว็บไซต์ใดก็ได้ตามต้องการ ส่งผลทำให้ผู้ใช้งานเลือกที่จุดเด่นของเว็บไซต์ ความสบายตา สีสัน รูปภาพ ไปถึง Mood&Tone ของเว็บไซต์มาก่อนที่จะเห็นว่าเว็บไซต์ที่กำลังดูอยู่นั้นมีประโยชน์หรือไม่มีประโยชน์ต่อผู้ใช้งานเอง

ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ที่เขียนขึ้นเอง หรือเว็บไซต์สำเร็จรูปต่าง ๆ ก็สามารถใช้เทคนิคการออกแบบเว็บไซต์ให้ทรงพลัง (Design Web) และเข้าใจถึงรูปแบบโครงสร้างของเว็บไซต์ก่อนครับ เริ่มต้นที่มาทำความเข้าใจประเภท ของเว็บไซต์หลักๆ ที่มักจะเจอก่อนครับ

เว็บไซต์องค์กร (CORPORATE WEDSITE)

เป็นเว็บไซต์ขององค์กรที่ต้องมีข้อมูลที่สำคัญขององค์กรนั้นแสดงอยู่ เช่น บอกข้อมูลการติดต่อ (Contact) บอกข้อมูลเกี่ยวกับองค์กร (About us) หรือบางเว็บไซต์ก็อาจจะมีการแจ้งข้อมูลข่าวสาร รวมทั้งยังมีการทำ Content online ผ่านเว็บไซต์ในรูปแบบบทความที่เจาะจงเกี่ยวกับธุรกิจของเว็บไซต์อีกด้วย โดยการออกแบบเว็บไซต์องค์กรจะต้องเน้นภาพลักษณ์ที่มีความน่าเชื่อถือเป็นหลัก และสะท้อนถึงธุรกิจอีกด้วย

เว็บไซต์ขายสินค้าออนไลน์ (E-COMMERCE)

E-commerce เป็นหนึ่งในประเภทเว็บไซต์ที่มาแรงตาม เพราะช่วงนี้ E-commerce กำลังเติบโตขึ้นอย่างมาก ตั้งแต่มี Covid-19 ผู้คนหันมาซื้อของในร้านค้าออนไลน์กันมากขึ้นกว่าเมื่อก่อน ทำให้ใครก็ตามที่มีขายสินค้าก็อยากจะมีเว็บไซต์ E-commerce เป็นของตัวเอง ซึ่งหลักการออกแบบเว็บไซต์ลักษณะนี้จะเน้นภาพที่ชัดเจน โดนเด่น สีสันสดใส ใช้งานง่าย

ซึ่งทั้ง 2 แบบสามารถใช้ 7 เทคนิคนี้ไปปรับใช้เหมือนกันครับ

1.เป้าหมายในการออกแบบเว็บไซต์

การออกแบบเว็บไซต์ที่ดีต้องเหมาะสมกับผู้ใช้งาน ตัวอย่างเช่น เว็บไซน์นี้มีเพื่อให้เหมาะกับผู้ใช้งานเว็บไซต์ที่กำลังมองหาข้อมูลที่มีสาระความรู้ การโต้ตอบหรือทำธุรกรรมกับธุรกิจ ซึ่งภายในเว็บจำเป็นที่จะต้องมีจุดประสงค์ที่ชัดเจน เพื่อตอบสนองความต้องการเฉพาะสำหรับผู้ใช้เว็บไซต์

2.การสื่อสารที่ชัดเจน

ผู้ที่เข้าชมเว็บไซต์มักจะต้องการข้อมูลที่รวดเร็ว ดังนั้นการสื่อสารข้อมูลออกไปควรให้ได้ข้อมูลที่อ่านง่าย เข้าใจง่าย อาจจะมีการแบ่งหัวข้อ ซึ่งต้องมีการออกแบบเว็บไซต์ให้มีการจัดระเบียบข้อมูลโดยใช้หัวข้อหรือแบ่งกลุ่มข้อมูล โดยเฉพาะแถบเมนูที่จะพาไปยังส่วนต่างๆ ควรทำให้เห็นชัดเจน และเน้นเฉพาะข้อมูลสำคัญนำมาใช้ เพื่อนำทางผู้ใช้งานไปหาข้อมูลที่เขากำลังสนใจได้อย่างสะดวกรวดเร็ว

3.อ่านง่าย สั้น กระชับ ดีกว่า

ภาษาที่เลือกใช้ควรเข้าใจง่าย ชัดเจน ตรงประเด็น เนื้อหาครบถ้วนแต่ไม่ยืดเยื้อ

• มีการจัดหน้าที่ดี มีช่องไฟระหว่างตัวอักษรที่ไม่มากและไม่น้อยจนเกินไป
• ข้อความไม่ยาวติดกันหลายต่อหลายบรรทัดโดยไม่เว้นวรรค
• ขนาดตัวหนังสือและฟอนต์ต้องอ่านง่ายโดยที่ไม่ต้องซูมเข้า-ออก

การที่ผู้ใช้งานไม่สามารถเข้าใจเนื้อหาและสิ่งที่เราต้องการสื่อสาร ต่อให้ออกแบบเว็บไซต์สวยงามมากแค่ไหน ก็อาจจะไม่เกิดประโยชน์ต่อผู้ใช้งานเช่นกัน

4.สีที่ใช้ก็สำคัญเหมือนกัน

สีเป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญในการเพิ่มการใช้งานให้กับเว็บไซต์ทั้งในเรื่องของความน่าสนใจและสร้างการจดจำ จากการศึกษายังพบว่าธุรกิจแต่ละประเภทมักใช้สีสันคล้ายๆกันเพื่อให้เกิดความน่าจดจำมากยิ่งขึ้นด้วย ควรเลือกสีให้เข้ากับภาพลักษณ์ของธุรกิจแล้วก็ยังต้องเลือกให้มีความสมดุลในการจับคู่สีอีกด้วย เทคนิคที่สำหรับนำไปปรับกันครับ

• สีหลัก เป็นสีเดียวกับโลโก้ของแบรนด์
• สีพื้นหลัง ควรใช้สีโทนอ่อนหรือสีขาว เน้นความสบายตา
• ปุ่ม Call to action เน้นเป็นสีที่ตัดกับโลโก้เพื่อเพิ่มความโดดเด่น

5.สีที่ใช้ก็สำคัญเหมือนกัน

เราสามารถเข้าไปดาวน์โหลดรูปภาพมาใช้ได้ฟรีสำหรับเชิงพาณิชย์ และหากว่ายังไม่เจอรูปภาพที่ถูกใจ ก็สามารถซื้อมาใช้ได้อย่างถูกสิทธิ์ สิ่งสำคัญคือ ควรเลือกใช้รูปภาพที่มีอยู่แล้วของธุรกิจของเรา หรือเป็นรูปสินค้าของเราจริงๆ นั้นยิ่งเป็นเรื่องที่ดีกว่าครับ นอกจากนี้ยังสามารถเลือกใช้ไอคอนประกอบการออกแบบเว็บไซต์ได้เช่นกัน เพิ่มความน่าสนใจมากขึ้น

แต่สิ่งที่ต้องคำนึงต่อมา คือเรื่องของความคมชัด และสามารถสื่อความเป็นธุรกิจออกไปได้อย่างที่ต้องการ บางครั้งเราไม่สามารถการอธิบายข้อมูลทั้งหมดเป็นตัวหนังสือ รูปภาพจึงเข้ามาเติมเต็มในส่วนนี้ เพื่อทำให้เว็บไซต์ไม่น่าเบื่อ รวมถึงบ่งบอกความเป็นมืออาชีพของธุรกิจเราได้ด้วย

6.การเลือกใช้ฟอนต์ให้ดึงดูด

เราสามารถเพิ่มมูลค่าให้ประโยคสำคัญๆ ผ่านการเลือกฟอนต์ที่ให้ Mood & Tone เดียวกันโทนสี ภาพ หรือทิศทางขององค์กร การใช้ฟอนต์ก็เป็นอีกหนึ่งอย่าง ที่ส่งผลต่อความรู้สึกของผู้ใช้งาน รายละเอียดเล็กๆ อย่างขนาดของฟอนต์ สี ความหนา เอียง และการจัดช่องไฟก็ล้วนส่งผลต่อเนื้อหาสื่อออกไป โดยเทคนิคในการจัดการกับฟ้อนต์ในงานออกแบบเว็บไซต์ คือต้องกำหนดรูปแบบของฟ้อนต์เอาไว้เช่น

• H1 – หัวข้อเรื่องใช้ฟ้อนต์ขนาด 45px
• H2 – ใช้ขนาด 30px
• Body – ใช้ฟ้อนต์ขนาด 15px

7. สะดวก รวดเร็ว ทุกหน้าจอ

นอกจากผู้ใช้จะเข้าชมผ่านเว็บไซต์ในคอมพิวเตอร์แล้ว อีกช่องทางหนึ่งที่สำคัญ คือ การเข้าชมเว็บไซต์บนสมาร์ตโฟน/แท็บแล็บ จึงควรออกแบบเว็บไซต์ให้สามารถแสดงผลได้ทุกอุปกรณ์ และที่สำคัญอีกอย่างคือ ควรให้ผู้ใช้งานเปิดเข้าเว็บไซต์ได้ภายใน 3 วินาที นานกว่านี้จะทำให้ผู้ใช้งานกดออกไปเพื่อดูเว็บไซต์อื่นแทน

ดังนั้นในการออกแบบเว็บไซต์ต้องตรวจสอบให้มั่นใจว่าใช้เวลาในการเปิดนานเกินไปหรือไม่ รวมถึงการทำให้เว็บไซต์มี Responsive ที่ใช้ง่าย ดูข้อมูลได้ครบไม่ขัดตา ไม่ว่าจะดูหน้าจออะไรก็ตาม อย่าลืมที่จะติดตั้งเครื่องมือที่เก็บสถิติในการใช้งานเว็บไซต์ด้วย เพื่อแสดงผลหน้าจอที่เป็นที่นิยม ผู้ใช้งานเข้าส่วนไหนมากกว่า ควรปรับปรุงและพัฒนาอย่างไรต่อไปทั้งตัวเว็บไซต์และสินค้าของคุณ

สุดท้ายนี้จะเห็นได้ว่าจะออกแบบเว็บไซต์นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องศึกษาและรู้ในเรื่องต่างๆมากมาย ซึ่งที่ 1001click เรามีทีมงานมืออาชีพที่เข้าใจเรื่องการออกแบบเว็บไซต์ได้อย่างมืออาชีพ ไม่เพียงเน้นเรื่องความสวยงาม รวดเร็ว มีประสิทธิภาพควบคู่ไปด้วยกัน แต่ยังเน้นเรื่องการออกแบบที่ จะช่วยให้ธุรกิจของคุณขายสินค้าและบริการได้มากขึ้น

• สามารถติดต่อเพื่อขอคำปรึกษาได้ที่ 081 116 1001
• Line Id : 1001click
• Email : info@1001click.com